เราปัสสาวะเพื่อขับของเสียและขับน้ำส่วนเกิน เพื่อให้ระบบไตทำหน้าที่ปรับสมดุลในร่างกาย การมีเพศสัมพันธ์มีส่วนกระตุ้นกระเพาะปัสสาวะ ทั้งในการหดตัวและคลายตัว ทางเดินปัสสาวะ โดยเฉพาะเพหญิงใกล้กับระบบขับถ่ายและช่องคลอด ทำให้เสี่ยงติดเชื้อได้ง่ายการอั้นปัสสาวะบ่อยๆ อาจเกิดกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้
การมีเพศสัมพันธ์และการปัสสาวะหลังมีเพศสัมพันธ์ ไปทำความรู้จักอาการนี้พร้อมกันเลย
รู้หรือไม่ว่าร้อยละ 50 ของเพศหญิงเลยทีเดียวที่เคยมีปัญหาทางเดินปัสสาวะอักเสบ ซึ่งส่วนใหญ่คือกระเพาะปัสสาวะอักเสบ โดยในจำนวนนี้ 1 ใน 4 จะกลับมาเป็นซ้ำภายใน 6 เดือน มันเกี่ยวหรือไม่กับ
ทำไมต้องปัสสาวะ หลังมีเพศสัมพันธ์?
ร่างกายของเรามักจะมีเรื่องให้น่าค้นหาเสมอ และเพราะเป็นวิทยาศาสตร์ ทุกอย่างมักจะมีเหตุผลในตัวมันเอง ดังนั้น อะไรที่เป็นข้อสงสัย ไปอ่านเจอมาหรือเพื่อนเล่าให้ฟัง อยากรู้ว่าจริงไหม
วันนี้เป็นเรื่องสาวๆ อีกแล้ว มีคน ถามเข้ามาว่า “เนี่ยอ่านเจอมา เขาบอกว่าหลังมีเพศสัมพันธ์ต้องปัสสาวะด้วยนะ ไม่งั้นจะเสี่ยงติดเชื้อ” ก่อนจะไปถึงจริงไม่จริง และใครเป็นคนบอกมา ถ้าให้ตอบตอนนี้ก็คือ ที่จริงแล้ว หลังมีีเพศสัมพันธ์ สาวๆ มักจะปวดปัสสาวะมากกว่า แต่เป็นเพราะอะไรนั้น มาดูกัน
ทำไมเราถึงปวดปัสสาวะ?
ในทางเดินปัสสาวะนั้นมีส่วนประกอบหลายๆ อย่างที่ทำให้เราปัสสาวะออกมา เพื่อขับของเสีย และขับน้ำส่วนเกินเป็นหลัก นอกจากนี้แล้ว ระบบไตยังทำหน้าที่เกี่ยวกับการปรับสมดุลกรดเบสในร่างกาย เพื่อให้ระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานได้ปกติด้วย
กระเพาะปัสสาวะ เป็นอวัยวะที่อยู่ที่ภายในอุ้งเชิงกรานของเรา ถ้าในส่วนของผู้หญิงนั้น อยู่ติดกันกับมดลูกเลยครับ ทำให้หลายๆ ครั้งการทำงานของมันก็มีความสัมพันธ์กัน
การที่เราจะปัสสาวะได้นั้น ต้องใช้ระบบประสาทส่วนกลางด้วยอย่างหนึ่ง เพื่อทำให้กล้ามเนื้อบริเวณกระเพาะปัสสาวะทำงาน คลายตัวเพื่อปล่อยปัสสาวะออกมา นอกจากนี้ หากใครยังจำได้ตอนเรียนวิทยาศาสตร์เบื้องต้น หากเรามีระบบ Parasympathetic ทำงาน หรือเกี่ยวกับการผ่อนคลาย ไม่มีสิ่งเร้าแล้ว เราก็เลยปัสสาวะออกมาได้เช่นกัน
สาเหตุของการปัสสาวะหลังการมีเพศสัมพันธ์
อย่างที่บอกไปเมื่อกี้ครับว่า กระเพาะปัสสาวะของผู้หญิงนั้นอยู่ติดกับมดลูก ทำให้การทำงานของมันมีความสัมพันธ์กันอยู่ และหากจำบทความตอนที่แล้วได้ก็จะรู้ด้วยว่า สาวๆ ไ่ม่ได้ปัสสาวะออกมาทางช่องคลอด แต่มีอีกช่องหนึ่งเล็กๆ อยู่ด้านบนช่องคลอดอีกที (อ่านเรื่องทางเดินปัสสาวะเพิ่มเติมที่นี่)
ทีนี้มาเจาะดูสาเหตุของการปวดปัสสาวะหลังมีเพศสัมพันธ์กันต่อ
1. กระเพาะปัสสาวะหดตัวและคลายตัว
เนื่องจากการมีเพศสัมพันธ์เป็นเหมือนเป็นสิ่งเร้า ทำให้ระบบประสาทส่วนกลางถูกกระตุ้นโดย Sympathetic system หัวใจเต้นเร็ว เหงื่อออก ม่านตาโต หรือกระเพาะปัสสาวะหดตัวเกร็ง แต่หลังจากเสร็จสรรพขั้นตอนแล้วนั้น มันจะกลับมาเป็น Parasympathetic เหมือนเดิม ตรงนี้เองที่กล้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะ และหูรูดคลายตัว เราจากที่หดเกร็งอยู่ เราก็จะเริ่มรู้สึกถึงอาการปวดปัสสาวะ และอยากาไปเข้าห้องน้ำ ซึ่งเกิดทั้งในผู้หญิงและผู้ชายเลย
2. กระเพาะปัสสาวะถูกกระตุ้นโดยตรง
ลองนึกถึงตอนที่เรากำลังปวดปัสสาวะนะครับ เราจะรู้สึกถึงกระเพาะปัสสาวะที่มีน้ำอยู่เต็ม มันจะรู้สึกหน่วง ถ้ามีอะไรมากระทบแทบจะอั้นไม่ไหว ต้องการไปปัสสาวะออกทันทีใช่ไหมครับ ทีนี้การมีเพศสัมพันธ์เนี่ยก็จะคล้ายกัน เพราะระบบประสาทถูกกระตุ้นไม่ว่าจะด้วยวิธีใดอย่างที่กล่าวไปในข้อแรก ซึ่งเกิดได้ทั้งเพศชายและเพศหญิงครับ กระเพาะปัสสาวะที่สัมพันธ์กับอวัยวะเพศ โดยในเพศชายคือท่อเดียวกับอสุจิแต่มีกลไกควบคุมการหลั่งคอยคอนโทรลอยู่ แต่ในเพศหญิงนั้นท่อปัสสาวะสั้นกว่าและต่อตรงถึงกระเพาะปัสสาวะ และที่สำคัญคืออยู่ใกล้กับมดลูกมากๆ เมื่อมีเพศสัมพันธ์ผู้หญิงก็จะรู้สึกหน่วงภายนอก และรู้สึกว่าอยากปัสสาวะนั่นเอง
ต้องปัสสาวะทันทีหลังมีเพศสัมพันธ์ไหม?
หลักการของการปวดปัสสาวะก็อย่างที่พี่หมอบอกไปครับ ซึ่งเป็นเรื่องปกติธรรมดาของร่างกายเราทุกคน แม้ไม่มีเพศสัมพันธ์เราก็ต้องปัสสาวะกันอยู่แล้ว
สำหรับความเชื่อที่ว่า ต้องปัสสาวะทันทีหลังมีเพศสัมพันธ์เพื่อลดการติดเชื้อนั้น พี่หมออยากให้น้องๆ ลองนึกย้อนไปดูกลไกการเกิดปัสสาวะอีกทีนะครับ คือ
- เราปัสสาวะเพื่อขับของเสียและขับน้ำส่วนเกิน เพื่อให้ระบบไตทำหน้าที่ปรับสมดุลในร่างกาย
- การมีเพศสัมพันธ์มีส่วนกระตุ้นกระเพาะปัสสาวะ ทั้งในการหดตัวและคลายตัว และทำให้รู้สึกปวดปัสสาวะ
- ทางเดินปัสสาวะ โดยเฉพาะเพศหญิงใกล้กับระบบขับถ่ายและช่องคลอด ทำให้เสี่ยงติดเชื้อได้ง่ายอยู่แล้ว
- การอั้นปัสสาวะบ่อยๆ อาจเกิดกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้
เกี่ยวกับอาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
ร้อยละ 50 ของเพศหญิงที่เคยมีอาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบ มักจะกลับมาเป็นซ้ำบ่อยๆ นอกจากมีอาการไม่สุขสบาย เจ็บปวดเวลาปัสสาวะ, ปัสสาวะบ่อย, ปัสสาวะลำบาก, ปัสสาวะสุดแล้วเสียว, ปัสสาวะเป็นเลือด ฯลฯ แล้ว หากเป็นมากจะลุกลาม เกิดท่อไตอักเสบ กรวยไตอักเสบ มีอาการไข้ หนาวสั่น ปวดหลังเพิ่ม หากเป็นในคนที่ภูมิต้านทานร่างกายไม่แข็งแรง อาจจะเกิดการติดเชื้อเข้ากระแสโลหิตจนถึงแก่ชีวิตได้ นอกจากปัญหาสุขภาพจากความเจ็บป่วย การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะเรื้อรัง ส่งผลให้ผู้หญิงส่วนหนึ่งต้องรับประทานยาปฏิชีวนะระยะยาว ซึ่งอาจจะเกิดการดื้อยา ส่งผลเสียต่อสุขภาพมากขึ้น
สาเหตุเกิดจากอะไร?
สาเหตุที่ทำให้เกิดการอักเสบติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ คือการติดเชื้อแบคทีเรียเข้าไปทางท่อปัสสาวะ (Urethra) ส่วนใหญ่เป็นเชื้อโรคตัวร้ายในลำไส้ปนเปื้อนเข้าไปทางท่อปัสสาวะ เนื่องจากท่อปัสสาวะของหญิงสั้นกว่าชาย ความยาวเพียง 2-4 เซนติเมตร ขณะที่ฝ่ายชายยาว 20 เซนติเมตร ฝ่ายหญิงจึงมีโอกาสติดเชื้อมากกว่าฝ่ายชาย
ปัจจัยเสี่ยงในการเกิดการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญข้อหนึ่งที่มีงานวิจัยยืนยัน คือความถี่ในการมีเพศสัมพันธ์ และการเพิ่งมีเพศสัมพันธ์ โดยพบว่าร้อยละ 40 ของผู้หญิงที่มีการอักเสบของกระเพาะปัสสาวะแบบเฉียบพลัน มักจะเพิ่งมีเพศสัมพันธ์ภายใน 24-48 ชั่วโมง และการเกิดกระเพาะปัสสาวะอักเสบภายใน 24 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ พบมากในผู้หญิงที่เพิ่งแต่งงาน จนมีชื่อเรียกว่า กระเพาะปัสสาวะอักเสบฮันนีมูน ‘Honeymoon Cystitis’ งานวิจัยพบว่าในช่วงมีเพศสัมพันธ์ มีการเพิ่มการติดเชื้อจากแบคทีเรียที่อยู่ในช่องคลอด เดินทางเข้าท่อปัสสาวะ และไปติดเชื้อที่กระเพาะปัสสาวะ ยืนยันจากงานวิจัย พบแบคทีเรียจำนวนเพิ่มมากขึ้นในน้ำปัสสาวะหลังมีเพศสัมพันธ์ถึง 10 เท่า โดยเกินร้อยละ 80 เป็นเชื้ออีโคไล (Uropathogenic E. coli: UPEC) ที่ปนเปื้อนมาจากทวารหนัก
การค้างของน้ำปัสสาวะที่มีเชื้อโรคทำให้เกิดการเพิ่มจำนวนของแบคทีเรีย และเกิดการอักเสบเฉียบพลัน ดังนั้นการปัสสาวะทิ้งช่วยป้องกันการเพิ่มจำนวนแบคทีเรีย ป้องกันการอักเสบติดเชื้อนี้ได้
จะเกิดอะไรขึ้นหากไม่รักษา
เมื่อมีการอักเสบติดเชื้อกระเพาะปัสสาวะ หากไม่รักษา 60% ของคนไข้จะมีอาการปัสสาวะอักเสบ เชื้อโรคจะอยู่ในน้ำปัสสาวะเป็นเดือนๆ ก่อให้เกิดกระเพาะปัสสาวะอักเสบเรื้อรัง ทางเดินปัสสาวะอักเสบจึงไม่ใช่โรคธรรมดาที่เป็นแล้วไม่มีอันตราย ทั้งเป็นแล้วไม่สามารถหายได้เอง งานวิจัยที่ทำในนักศึกษาหญิงระดับวิทยาลัย ตีพิมพ์ใน J Clin Epidemiol 1990 ยืนยันว่า ปัจจัยที่ทำให้เกิดการอักเสบของทางเดินปัสสาวะ คือความถี่ของการมีเพศสัมพันธ์ โดยไม่เกี่ยวข้องกับจำนวนคู่นอนและการเพิ่งมีเพศสัมพันธ์
โดยนักศึกษาที่ปัสสาวะก่อนและหลังมีเพศสัมพันธ์ สามารถป้องกันการเกิดทางเดินปัสสาวะอักเสบได้เป็น 9.5 เท่า เทียบกับกลุ่มควบคุม ขณะนักศึกษาที่ปัสสาวะเฉพาะก่อนมีเพศสัมพันธ์ ป้องกันการเกิดได้ 3.4 เท่า และนักศึกษาที่เกิดทางเดินปัสสาวะอักเสบทั้งหมดหลังมีเพศสัมพันธ์ ไม่เคยหรือน้อยครั้งมาก (Rarely) ที่จะปัสสาวะหลังมีเพศสัมพันธ์ เมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญ
สรุปว่าทำไมต้องปัสสาวะหลังมีเพศสัมพันธ์
การปัสสาวะทิ้งก่อนและหลังมีเพศสัมพันธ์เป็นพฤติกรรมสุขภาพที่พึงกระทำ เพราะช่วยป้องกันการเกิดทางเดินปัสสาวะอักเสบได้ตามหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ อีกทั้งไม่มีอันตรายใดๆ แม้แต่น้อย