ช่วยตนเอง ดีหรือไม่ดี มีผลเสียหรือไม่อย่างไร

ช่วยตัวเอง คือการสัมผัสหรือลูบไล้อวัยวะเพศ ทวารหนัก หรือหน้าอกของตนเอง เพื่อกระตุ้นความรู้สึกทางเพศ หรือเพื่อสำเร็จความใคร่ แม้การช่วยตัวเองนับเป็นกิจกรรมที่ปลอดภัยจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ รวมถึงไม่ทำให้เกิดการตั้งครรภ์ แต่หาก ช่วยตัวเองบ่อย อาจส่งผลให้อวัยวะเพศบาดเจ็บได้ นอกจากนั้น ผู้ที่หมกมุ่นจนเสพติดการช่วยตัวเอง อาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างคู่รักและรักษาความสัมพันธ์กับคนรอบข้างได้ยากขึ้น

การช่วยตัวเอง คืออะไร

ช่วยตัวเอง คือ การที่เราทำกิจกรรมกับตัวเองเพื่อบบรลุให้ถึงจุดสุดยอด จะใช้เครื่องมืออุปกรณ์ หรือไม่ใช้ก็ได้ เพื่อให้ถึงจุดถึงความเสียว เช่นชักว่าว เกี่ยวเบ็ดเป็นต้น

การช่วยตัวเองนับเป็นกิจกรรมที่ปลอดภัย เนื่องจากไม่เสี่ยงต่อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ใด ๆ และไม่ก่อให้เกิดการตั้งครรภ์ นอกจากนี้ การช่วยตัวเองยังมีประโยชน์อีกหลายประการ เช่น

  • ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย
  • ลดความเครียด
  • ช่วยให้หลับสบาย
  • ส่งเสริมสมรรถภาพทางเพศ และสุขภาพของระบบสืบพันธุ์
  • ลดความเสี่ยงโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก
  • ช่วยระบายความต้องการทางเพศ โดยเฉพาะในกรณีที่ไม่สะดวกในการมีเพศสัมพันธ์ เช่น ระหว่างตั้งครรภ์

ความเข้าใจผิดต่าง ๆ เกี่ยวกับการช่วยตัวเอง

ความเข้าใจผิดต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการช่วยตัวเอง มีดังต่อไปนี้

  1. ช่วยตัวเองไม่ทำให้อสุจิน้อยลง เพราะร่างกายเราผลิตอสุจิตลอด ไม่ส่งผลต่อการมีบุตร
  2. ช่วยตัวเองไม่ได้ทำให้ความต้องการทางเพศน้อยลง
  3. การช่วยตัวเองทำให้ความสุขในการมีเพศสัมพันธ์กับคู่นอนลดลง ความจริงแล้ว การช่วยตัวเองถือเป็นการสำรวจตัวเองว่าชอบถูกกระตุ้นทางเพศแบบไหน ถือเป็นวิธีการหนึ่งที่ช่วยเพิ่มความสุขระหว่างการมีเพศสัมพันธ์กับคู่นอน
  4. การช่วยตัวเองเป็นเรื่องน่าละอายหรือเป็นเรื่องผิดปกติ ความจริงแล้ว การช่วยตัวเองถือเป็นเรื่องปกติตามธรรมชาติ เป็นการสร้างความสุขและความพึงพอใจให้ตัวเอง

ช่วยตัวเองบ่อย แค่ไหน จึงถือว่ามากเกินไป

ไม่ได้มีการระบุว่าการช่วยตัวเองวันละกี่ครั้งจึงส่งผลดีหรือผลเสีย ต่อสุขภาพ หรือวันละกี่ครั้งวันละกี่รอบ จึงส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกาย การช่วยตัวเองควรอยู่ในขอบเขตที่พอดี ไม่บ่อยเกินไปจนติด ทำให้ผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวันแย่ อย่าบ่อยไปเพราะไม่มีเวลาให้คู่นอน ทั้งนี้การช่วยตัวเองแบบเสพติด หรือที่เรียกว่า ช่วยตัวเองบ่อย อาจพิจารณาได้จากพฤติกรรมต่อไปนี้

  • ละเลยงานบ้าน หรือกิจวัตรประจำวัน เพื่อไปช่วยตัวเอง
  • ไม่ไปโรงเรียน หรือสถานที่ทำงาน เพื่อช่วยตัวเอง
  • ยกเลิกทริปเที่ยวกับเพื่อน หรือการทำกิจกรรมกับสมาชิกในครอบครัว เพื่อหาเวลาว่างอยู่กับตัวเองและช่วยตัวเอง
  • ยอมพลาดงานหรือกิจกรรมสำคัญต่าง ๆ เพื่อช่วยตัวเอง

ผลเสียของการช่วยตัวเองบ่อย 

ผู้ที่เสพติดการช่วยตัวเอง หรือช่วยตัวเองบ่อย อาจก่อให้เกิดผลเสียต่าง ๆ ดังนี้

  1. ทำให้เหนื่อยล้าหรือหมดแรงและอาจทำให้ไม่อยากตื่นขึ้นไปทำกิจวัตรประจำวัน
  2. อาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างคู่รัก เพราะอาจทำให้ใช้เวลาด้วยกันน้อยลง หรือไม่สนใจว่าคู่รักต้องการอะไร
    ละเลยความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองกับคนรอบข้าง เพื่อนฝูง หรือคนในครอบครัว
  3. นอกจากนั้น หากช่วยตัวเองบ่อย และทำไม่ถูกวิธี หรือใช้อุปกรณ์อื่น ๆ ที่ไม่สะอาดร่วมด้วยอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพอวัยวะเพศของชายและหญิง ดังนี้
  • เพศชาย ทำให้ผิวหนังบริเวณองคชาตระคายเคืองหรือบาดเจ็บได้หากช่วยตัวเองด้วยวิธีรุนแรง นอกจากนั้น การพยายามงอองคชาตระหว่างองคชาตแข็งตัว อาจทำให้องคชาตหักหรือเนื้อเยื่อภายในฉีกขาดได้
  • เพศหญิง ทำให้ถึงจุดสุดยอดได้ยากขึ้นเมื่อมีเพศสัมพันธ์กับคู่รัก หากบริเวณที่มักถูกกระตุ้นระหว่างช่วยตัวเองไม่ถูกกระตุ้นระหว่างมีเพศสัมพันธ์ นอกจากนี้ การกระตุ้นคลิตอริสมากเกินไปในระหว่างช่วยตัวเอง อาจทำรู้สึกเจ็บบริเวณคลิตอริสเมื่อมีเพศสัมพันธ์ นอกจากนั้น หากใช้เซ็กส์ทอยที่ไม่ได้มาตรฐานหรือไม่ทำความสะอาดก่อนและหลังใช้ อาจก่อให้เกิดการบาดเจ็บหรือติดเชื้อได้

 

การช่วยตัวเองในผู้หญิงเป็นเรื่องที่จำเป็นเท่ากับผู้ชายหรือไม่ ในแง่ของทั้งสุขภาพ (Health) และ ความสุข (Pleasure)

และถ้าผู้หญิงบางคนไม่ชอบช่วยตัวเอง ถือว่าผิดปกติหรือไม่ หรือมีโอกาสที่จะส่งผลเสียกับสุขภาพหรือไม่

ช่วยตัวเองถือว่าเป็นเรื่องปกติ แล้วแต่รสนิยมของแต่ละคน ไม่มีผลเสียกับสุขภาพใดๆ

อันที่จริง คนเราต้องเข้าใจก่อนว่าความต้องการทางเพศและการช่วยตนเองเป็นเรื่องตามธรรมชาติที่เริ่มในวัยรุ่น เมื่อฮอร์โมนเพศเริ่มทำงาน ถือว่าเป็นขั้นตอนพัฒนาเรื่องเพศ เป็นการผ่อนคลายความตึงเครียดเรื่องเพศ ไม่ทำให้ตั้งครรภ์หรือเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

ผู้หญิงที่ช่วยตัวเองตั้งแต่อายุ15ขึ้นไปจะมีความรู้จุดเสียว จุดไหนมีความสุข และมีความสุขทางเพศกว่าคนที่ไม่ช่วยตัวเองเลย

ประเด็นถัดมาที่เราควรทำความเข้าใจคือ ‘การช่วยตนเองเป็นเรื่องของรสนิยม คนเราไม่ได้ชอบเรื่องนี้ทุกคน’ จากการสำรวจพบว่าผู้ชายช่วยตนเองมากกว่าผู้หญิง (73.8% ต่อ 48.1%) และวัยรุ่นมีความถี่ในการช่วยตนเองสูงกว่าคนสูงวัย จึงไม่แปลกที่จะพบเห็นบางคนอาจจะไม่ชอบเรื่องนี้ และการไม่ชอบก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องผิดปกติแต่อย่างใด ที่สำคัญไม่ว่าจะผู้หญิงหรือผู้ชาย เรามาลองสำรวจข้อดีและข้อเสียเบื้องต้นดูก่อนว่าเรื่องราวของการสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองนั้นมีผลกับเราอย่างไรได้บ้าง

ข้อเสีย

  • บางวัฒนธรรมถือว่าเป็นเรื่องผิดบาป ทำให้คนทำรู้สึกผิด ทั้งที่จริงๆ แล้วไม่ใช่ และในสังคมหรือแม้กระทั่งในครอบครัวควรมีการรณรงค์หรือให้ความรู้ว่าเป็นเรื่องธรรมชาติ เพียงแต่ต้องทำให้ถูกต้องตามกาลเทศะเท่านั้นเอง
  • นิยามการ ‘เสพติดการช่วยตนเอง’ ให้ถูกต้อง คำว่าเสพติดไม่ได้อยู่ที่ความถี่ แต่ดูที่การสร้างความเดือดร้อนให้ทั้งตนเองและผู้อื่น เช่น ทำให้ขาดเรียน ขาดงาน ขาดการสังสรรค์กับเพื่อนฝูงมิตรสหาย ทำประเจิดประเจ้อให้ผู้อื่นเห็น
  • ในผู้ชาย การช่วยตนเองจนติดอาจทำให้อวัยวะเพศไม่แข็งตัว ไม่หลั่ง หลั่งเร็ว หรือหลั่งช้าเมื่อมีเพศสัมพันธ์

ข้อดี

  • ไม่ง้อเพศสัมพันธ์ เรียนรู้สรีระร่างกายตนเอง เข้าใจการสร้างความสุขด้วยตนเอง
  • เมื่อมีเพศสัมพันธ์ การเคยช่วยตนเองทำให้ถึงจุดสุดยอดได้หลายครั้ง มีความสุขทางเพศมากขึ้น
  • การลับมีดบ่อยๆ ลดการเกิดสนิมของมีดได้ฉันใด การช่วยตนเองสม่ำเสมอก็ช่วยกระตุ้นความต้องการทางเพศและมีเพศสัมพันธ์บ่อยครั้งขึ้นได้ฉันนั้น
  • ช่วยตัวเอง ทำให้ไม่เครียดหนัก ผ่อนคลาย ลดการปวดประจำเดือน
  • ในผู้ชาย การหลั่งน้ำอสุจิจากการช่วยตนเอง หรือมีเพศสัมพันธ์เดือนละ 21 ครั้ง ช่วยลดการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมากได้ถึง 20%
  • เลือดไหลเวียนสมองและร่างกายได้ดีหลังการถึงจุดสุดยอด เพิ่มความจำ เพิ่มภูมิต้านทานให้ร่างกาย